บทความนี้เราจะพาสาว ๆ ไปทำความรู้จักกับครีมกันแดด 2 ตัวสุดปังที่เหมาะสุด ๆ สำหรับการเตรียมผิวก่อนไปเที่ยว ไม่ว่าจะไปทะเล ภูเขา หรือนั่งคาเฟ่ชิล ๆ ที่ไหนก็ปกป้องผิวจากแสงแดดได้เริ่ด ๆ พร้อมเคล็ดลับการบำรุงผิวสำหรับสาวผิวแห้ง มาเริ่มกันเลยค่ะ
เริ่มกันที่ Garnier Super UV Invisible Serum Sunscreen SPF50+ PA++++ กันเลยค่ะ บอกเลยว่าเจ้าตัวนี้เป็นครีมกันแดดที่เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะสาว ๆ ที่มีปัญหาผิวแห้ง ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายคนเจอเมื่ออยู่กลางแดดนาน ๆ นอกจากจะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้ถึง SPF50+ และ PA++++ ซึ่งถือว่าเป็นการปกป้องที่ครอบคลุมมากแล้ว ยังมีเนื้อสัมผัสที่เบาสบาย ซึมซาบเร็ว ไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ จึงเหมาะมาก ๆ สำหรับสาว ๆ ที่ไม่ชอบความหนักผิว แต่ยังคงต้องการการปกป้องอย่างเต็มที่
เคล็ดลับในการใช้ Garnier Super UV ให้เริ่ดที่สุดก็คือ ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านอย่างน้อย 15-30 นาทีเพื่อให้ครีมได้ทำงานอย่างเต็มที่ และอย่าลืมทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมงหากคุณสาว ๆ อยู่กลางแดดนาน ๆ นะคะ จะได้มั่นใจได้ว่าผิวของเรายังคงได้รับการปกป้องอยู่เสมอ หรือจะพกเป็นครีมกันแดด 7 11 แบบซองไประหว่างวันก็เริ่ด และที่สำคัญ Garnier Super UV ยังเหมาะมาก ๆ สำหรับการแต่งหน้าตามหลังการใช้ครีมกันแดด เพราะเนื้อครีมเบาบาง ซึมไว ไม่ทำให้เกิดคราบหรือทำให้เครื่องสำอางหลุดง่าย แถมยังช่วยให้เมคอัพติดทนขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นใครที่กำลังมองหาครีมกันแดดที่เหมาะกับทุกกิจกรรม แถมยังไม่ทำให้ผิวแห้ง ตัวนี้ตอบโจทย์สุด ๆ ค่ะ
มาต่อกันที่กันแดดตัวที่สองกันค่ะกับ L'Oréal UV Defender Fresh & Matte บอกเลยว่าถ้าคุณสาว ๆ เป็นคนที่มีผิวมันหรือผิวผสม ตัวนี้จะกลายเป็นลูกรักของคุณอย่างแน่นอน เพราะมันไม่ได้เพียงแต่ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้ดีเท่านั้น แต่ยังช่วยคุมมันให้ผิวดูสวยแมตต์ตลอดทั้งวันอีกด้วย ตัวนี้มาพร้อมกับ SPF50+ PA++++ ซึ่งสามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA, UVB รวมถึงรังสีอินฟราเรด และแสงสีฟ้าจากหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่เราต้องเผชิญในชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยจุดเด่นที่ทำให้สาว ๆ รักตัวนี้ก็คือความรู้สึกสดชื่นเมื่อทา เพราะเนื้อครีมมีความบางเบา ซึมซาบเร็ว และไม่ทำให้ผิวรู้สึกเหนียวเหนอะหนะเลยแม้แต่น้อย หากสาว ๆ เป็นคนที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง หรือจำเป็นต้องอยู่กลางแดดนาน ๆ L'Oréal UV Defender Fresh & Matte จะช่วยให้ผิวของคุณดูแมตต์และสดชื่นตลอดทั้งวัน และยังคงความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้านอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สาว ๆ ควรมีติดกระเป๋าไว้ค่ะ หรือจะลองครีมกันแดดหน้าตัวอื่น ๆ ที่ชอบก็ได้เช่นกันค่ะ
ไม่ว่าคุณจะเลือกตัวไหน อย่าลืมทาครีมกันแดดให้ครบทุกวันนะคะ เพราะการปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการมีผิวสวยสุขภาพดีในระยะยาวค่ะ

ใครที่ไม่เคยมีปัญหาหน้าแห้งจะไม่รู้จริง ๆ นะ ว่ามันน่าอึดอัดแค่ไหน เพราะเวลาที่เราหน้าแห้ง ผิวของเราจะพังไปหมด เริ่มตั้งแต่มีอาการแสบคันที่ผิวหน้า ถ้าเวลาที่แดดออกก็จะมีเหงื่อออกมากผิดปกติเพราะชั้นผิวหนังผลิตไขมันมาทดแทนให้ หรือแม้แต่ตอนแต่งหน้า ก็แต่งอะไรไม่ติดสักอย่าง กลายเป็นขุย เป็นคราบ ๆ ทำยังไงก็ไม่สวย เพราะแบบนี้เราเลยให้ความสำคัญกับการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวสุด ๆ เพราะหัวใจสำคัญของการบำรุงผิวเลย สำหรับสาว ๆ คนไหนที่มีปัญนี้เหมือนกัน อยากให้มาลองอ่านบทความนี้ไปด้วยกัน เพราะเราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักแบรนด์เวชสำอางที่ช่วยดูแลผิวอย่างแบรนด์ Cerave ไปพร้อม ๆ กัน และแนะนำไอเท็มกู้ผิวแห้งแบบเน้น ๆ 2 ชิ้นที่รับรองว่าผิวหน้าของคุณจะกลับมาสมดุลและชุ่มชื้นแน่นอน

ขอแนะนำแบรนด์ Cerave กันสักเล็กน้อย เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินหรือได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้มากันบ้างแล้ว Cerave เป็นแบรนด์เวชสำอางที่คิดค้นโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ทำให้มั่นใจได้เลยว่า ผลิตภัณฑ์แต่ละสูตร แต่ละชิ้น ผ่านการคิดค้น ทดสอบ ทดลอง มาเป็นอย่างดีจากผู้เชี่ยวชาญ ใช้แล้วผิวหน้าแข็งแรง โดยแบรนด์มีเทคโนโลยีเฉพาะที่ชื่อว่า เทคโนโลยีเอ็มวีอี ที่สามารถปล่อยส่วนผสมของสารบำรุงที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น แทรกซึมลงสู่แต่ละชั้นผิวได้อย่างล้ำลึก เป็นที่มาของการคิดค้นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 2 ชิ้นนี้ที่เรากำลังจะมาบอกต่อทุกคนนั่นก็คือ

ชิ้นแรกอย่างครีมทาผิว https://www.cerave.co.th/blog/skin-cream-with-10-benefits เป็นไอเท็มยอดฮิตของแบรนด์เลยก็ว่า ถ้าใครเคยเห็นก็จะต้องร้องอ๋อทันที ตัวนี้ชื่อว่า เซราวี มอยสเจอร์ไรซิ่ง ครีม มาพร้อมประสิทธิภาพในการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวพร้อมฟื้นบำรุงปราการปกป้องผิว เพื่อผิวหน้าและลำตัวที่แห้งถึงแห้งมาก ส่วนตัวได้ลองใช้ช่วงที่มีปัญหาหน้าแห้งคือแฮปปี้มาก เพราะหน้ชาชุ่มชื้นขึ้นจริง ชอบฟีลตอนทามาก ๆ เพราะเป็นเนื้อครีมเข้มข้น แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะผิวเลย ซึมเร็วมาก ชอบสุด ๆ

• มีเซราไมด์ที่ผสานกับ MVE Technology ช่วยควบคุมและค่อย ๆ ปล่อยสารสำคัญรวมถึงเซราไมด์ อย่างช้า ๆ ต่อเนื่อง ช่วยฟื้นบำรุงปราการผิวตามธรรมชาติ ทำให้ผิวหน้าแข็งแรงขึ้น
• มีไฮยาลูโรนิค แอซิด เป็นส่วนผสมสำคัญที่มอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวชั้นบนและช่วยคงความชุ่มชื้นของผิวไว้
• มีเซราไมด์ 3 ชนิดที่จำเป็นต่อผิว ช่วยเสริมเกราะปกป้องผิว และเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิว

ชิ้นที่สอง เป็นโลชั่นผิวแห้ง https://www.cerave.co.th/blog/all-about-lotion-dry-skin เซราวี มอยส์เจอร์ไรซิ่ง โลชั่น ที่ช่วยเรื่องผิวได้ดีเช่นเดียวกันกับครีมที่เราได้ป้ายยาไปด้านบน โลชั่นของเซราวีจะมากับเนื้อที่ให้สัมผัสบางเบา สบายผิว แต่ให้ความชุ่มชื้นได้ดี จุดเด่นคือ MVE technology คนดีคนเดิมที่ช่วยมอบความชุ่มชื้น แทรกซึมลงสู่ผิวต่อเนื่องเพื่อคงความความชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชั่วโมงความเริ่ดคือ จะค่อย ๆ ปล่อยสารสำคัญรวมถึงเซราไมด์ อย่างช้า ๆ สู่ชั้นชั้นผิวหนังอย่างต่อเนื่อง ช่วยปกป้องปราการผิว และซึมลงสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก บางเบาสบายผิว ซึมไว ไม่ทิ้งคราบขาวแน่นอน

เป็นยังไงกันบ้างกับสองผลิตภัณฑ์ที่เราได้แนะนำไป บอกเลยว่าสาวผิวแห้งควรลองสุด ๆ เพราะช่วยกู้ผิวได้จริง ๆ ยิ่งเป็นแบรนด์เซราวียิ่งอยากให้ลอง เพราะใช้แล้วปลอดภัย ได้การบำรุงแบบสุด ๆ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง